วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

JUDGE THE COVER



สังคมสมัยนี้ อันตรายรอบด้านมากๆ เรียกได้ว่า "น่ากลัวเลยแหละ"
จะไปไหนมาไหน ต้องคอยระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ
จะมัวเพลิดเพลินเหมือนเดินเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ก็ไม่ได้ (555)
แต่อย่างนั้นก็เถอะ เราก็เป็นคนสวยคนนึง ((แหวะ)) ที่ยังคงโลกสวย ด้วยเชื่อมั่นว่า...

"...ยังมีมุมที่สวยงามรออยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับตัวเราว่า...จะเลืือกมอบอะไรให้กับโลกใบนี้"

เย็นวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561  ที่ผ่านมา  (ทางการไปป่ะ +^^)

พรุ่งนี้ก็วันหยุดล้าววววววว เย้...... ^^
หยุดยาวด้วยนะ รอบนี้ ตั้งเป็นอาทิตย์แน่ะ วะฮะฮ่าาาาา

คืนนี้หลายคนเขาคงกำลังเดินทางไปเที่ยว หรือ กลับบ้าน ตจว. กันแน่ๆเลย

ส่วนเราน่ะเหรอ...จะไปไหนได้ล่ะ หยุดยาวแบบนี้ แถมฤกษ์งามยามดีด้วย
ก็ต้อง "ไปวัด" กักตุนเสบียงบุญ ไว้ใช้หลังสงกรานต์สิ ถึงจะถูก (อิ๊ๆๆๆๆ)
.
.
นี่ก็กำลังเดินทางอยู่นะ  แต่ดันเกิดหิ๊ววววว หิววววว ขึ้นมา ขอแวะข้างทางซะหน่อยละกัน
.
เจอแระ MC Donald ละกัน เพื่อนวัยเดียวกันอยู่ในนี้เพียบเลย (คริๆๆๆ)
.
ระหว่างที่นั่งกินโน่นนี่นั่นในร้านแมคเอย ชาร์จแบตมือถือเอย ใช้ Wifi ฟรีเอย อย่างกำลังเพลิดเพลินเอย

ก็มีคุณลุงวัยกลางคนท่านนึงมานั่งที่นั่งตรงข้ามเรา
การมาของลุงคนนี้ ส่งผลให้วัยรุ่นหลายคนย้ายที่นั่งลุกหนีกันหมด
หลายคนหันมองลุงอย่างดูถูกเหยียดหยาม และพูดคุยซุบซิบกับเพื่อนๆ
แน่นอน...ด้วยท่าทาง, การแต่งกาย และอะไรๆภายนอกของลุงนั้นเอง ที่ทำให้ทุกคนมีปฏิกิริยาลบ
รวมถึงตัวเราเองด้วย ที่กลัวๆ กังวลๆ คิดๆอยู่ว่า "เพื่อความปลอดภัย ย้ายที่ดีกว่ามั้ยว้าาาา"
.
.
แต่...ด้วยสติที่ฝึกมาระดับนึง บวกกับ หลักการตัดสินใจต่างๆ (หลักธรรม) ที่ได้รับจากครูบาอาจารย์
เราจึงเลือกที่จะ.... "นั่งอยู่ที่เดิม และ สังเกตดูท่าทีของลุงเขาให้แน่ใจ ก่อนที่จะทำแบบที่คนอื่นเขาทำ"
เพราะนึกถึงใจเขาใจเราว่า "ถ้าลุงเขาไม่ใช่มิจฉาชีพ แค่เข้ามาหาอะไรทานในราคาประหยัดเท่านั้น"
แต่กลับต้องมาเจอสายตาแบบนี้ คำพูด ท่าทางรังเกียจของเดกวัยรุ่นในร้านแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไง?
.
.
เท่าที่สังเกตดว้ยความกลัวๆกล้าๆอยู่นั้นเอง ก็ได้เห็นว่า....
1.ลุงเขาเลือกเดินมานั่งจุดนี้ ทั้งที่ตรงอื่นก็ว่าง เพราะ "ปลั๊กไฟ" รึเปล่า? 
2.แล้วตอนที่เดินมานั่ง ก็ซืื้อ "ไอศครีมแมคฯมา 1 โคน" แล้วจึงค่อยมานั่ง
3.พอมาถึง เขาก็วางข้าวของอย่างเรียบร้อย ระมัดระวัง ไม่ให้เสียงดัง หรือไปโดนตัวคนข้างๆ
4.พอวางเสร็จ ลุงก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือ ปุ่มกด ขึ้นมาชาร์จ ซึ่งระหว่างชาร์จ 
5.เขาก็กดมือถือไปด้วย ดูนั่นนี่ไป (ซึ่งมันไม่น่ามีอะไรให้ดูเยอะเหมือนสมาร์ทโฟนนะ)
6.ระหว่างกดมือถือไป ลุงก็มีท่าทางล่อกแล่กๆ มองไปรอบๆ อย่างกับระแวง
   (เหมือนกลัวๆ กังวลๆ กับสายตาดูถูก,รังเกียจ ที่พวกวัยรุ่นดูเหมือนมีอันจะกินมองมา)

พอเห็นท่าทางต่างๆเหล่านั้น จึงสรุปได้ว่า
"ลุงคงเพียงแค่มาหาที่ชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือเพียงเท่านั้นแหละ ไม่ใช่โจรผู้ร้ายอะไรหรอก"

เมื่อได้ข้อสรุป ก็ทำให้คลายกังวลลงได้เยอะ
เลยนั่งชิวตามประสา กดมือถือเล่น ดูซีรีย์ ใช้ Wifi ฟรี ต่อไปอย่างสบายใจ (อุอุ)
แต่ก็ยังแอบมองลุงอยู่นะจ๊ะ (เพลงมา 555) เผื่อมีอะไร จะได้หนีทัน 555 (โลกสวยอย่างมีสติอ่านะ อุอุ)

ระหว่างที่นั่งไป เผือกไป เอ้ย! นั่งไป เล่นมือถือไป ก็ได้ยินลุงเขาคุยโทรศัพท์ จับประเด็นได้ว่า...

ลุงคนนี้เป็น รปภ. (รักษาความปลอดภัย) อยู่สถานที่แห่งหนึ่งใกล้ๆ เซ็นทรัลฯ ลาดพร้าว
เพืื่อนคนอื่นกลับบ้านช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์กันหมดแล้ว 
ลุงเองก็เช่นกัน กำลังจะเดินทางกลับไปหาพ่อแม่ที่ ตจว.ในวันนี้ 
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับ ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ จึงต้องมาแวะห้าง หาที่ชาร์จแบต
เพื่อโทรบอกพ่อแม่ถึงสาเหตุที่ต้องผิดคำพูด ทั้งที่อยากกลับไปหาใจจะขาดว่า...
ถ้า รปภ. กลับหมด สถานที่นั้นๆก็จะไม่มีใครดูแลรักษาความปลอดภัย 
ลุงเป็นคนสุดท้ายที่อยู่เวรล่าสุด เลยเลือกที่จะอยู่เพราะ "หน้าที่และความรับผิดชอบ" 
และถือโอกาสนี้เป็นจังหวะอันดีที่จะได้เงินเพิ่มขึ้นจากปกติ เพื่อนำเงินก้อนนี้ส่งให้พ่อแม่ที่บ้านได้ใช้

พอเราเผือก เอ้ย! ได้ฟังลุงคุยโทรศัพท์กับที่บ้าน จนรู้เรื่องราวความเป็นไปทั้งหมด
มันเลยทำให้เราได้เห็นอะไรหลายอย่างในตัวลุงคนนี้ ที่เข้าร้านแมคฯ มาด้วยความจำเป็น มากกว่ามานั่งชิว ไร้สาระ ปล่อยเวลาทิ้งไปวันๆแบบเราและวัยรุ่นในร้านหลายๆคน

"ชาร์จแบตมือถือเพื่อโทรหาพ่อแม่"

ส่วนเราและวัยรุ่นที่เหลือหรอ... "ชาร์จแบตมือถือ เพื่อดูซีรีย์ เล่นเกมส์ ใช้ Wifi ฟรี" เท่านั้น

คนที่น่ารังเกียจ และน่าดูถูกเหยียดหยาม ไม่ใช่ลุงแล้วแหละ!!!! เหอะๆๆ


มีสิ่งดีๆหลายอย่าง ที่เราได้จากคุณลุงคนนี้ แล้วได้น้ำมาย้อนสอนตัวเอง
และก็ปรารถนาอยากให้พวกวัยรุ่นหน้าตาสวยหล่อ แต่งตัวดูมีอันจะกิน แต่กลับมีดวงตาที่ตกต่ำ
ได้เห็น ได้คิด เหมือนเราบ้าง...

1.ในขณะที่ลุงซึ่งดูไม่ค่อยมีตังค์  ต้องการมาใช้ปลั๊กไฟในร้าน MC Donald ชาร์จแบตมือถือโทรหาพ่อแม่ ก็ยังลงทุนซื้อ "ไอศครีมโคนนึง" เพื่อเป็นใบเบิกทางให้ตัวเองสามารถเข้ามานั่งร้านนี้ และใช้ไฟชาร์จแบตมือถือได้อย่าง "ถูกต้อง"

แต่เด็กวัยรุ่นสวยหล่อ แต่งตัวดูมีอันจะกิน หลายคนกลับ "เนียน" เข้ามานั่งชาร์จแบต เล่นเกมส์ ดูซีรีย์ หลาย ชม. ฟรีๆ โดยที่ไม่ควักเงินลงทุนสักบาทในการซื้อสินค้าเขาเลย

สิ่งที่ลุงทำมันบ่งบอกถึงความ "มีมารยาท" แม้จะไม่มีตังค์ก็ตาม แต่ก็ยังลงทุน
นั่งมองแล้วก็คิดนะว่า จริงๆแล้ว คนที่น่ารังเกียจ ควรจะเป็นลุง? หรือพวกรวยจากการแบมือขอพ่อแม่?

2.ในขณะที่ลุงวางกระเป๋าลงอย่างระมัดระวัง สายกระเป๋าก็บรรจงเก็บทับไว้ใต้กระเป๋าอย่างดี ไม่ให้แกว่งไปโดนใคร 

แต่พวกวัยรุ่นหน้าตาสวยหล่อ แต่งตัวเหมือนมีอันจะกิน กลับวางกระเป๋าโครมคราม เสียงดัง แทบจะฟาดหน้าคนที่นั่งข้างๆ อยู่แล้ว ดูไม่ออกเลยว่า เป็นผู้ได้รับการอบรมมาแล้วนะ!!

สิ่งที่ลุงทำมันบ่งบอกถึงความ "มีมารยาท" แม้ลุงจะดูไม่มีตังค์ก็ตาม
นั่งมองแล้วก็คิดนะว่า จริงๆแล้ว คนที่น่ารังเกียจ ควรจะเป็นลุง? หรือพวกทำตัวสูงส่งแค่เปลือกนอก?

3.ในขณะที่พวกวัยรุ่นหน้าตาสวยหล่อ แต่งตัวดูเหมือนมีอันจะกิน เข้ามาร้านแมคฯ เพื่อชาร์จแบตเล่นเกมส์ ดูซีรีย์ ทำทุกอย่างที่ไม่มีสาระ นั่งมองลุงด้วยสายตาดูถูก เหยียดหยาม แล้วก็ซุบซิบนินทาด้วยคำพูดแย่ๆ

แต่...ลุงเขาเลือกที่จะอยู่กับตัวเอง ตรวจตราตัวเองถึงสิ่งที่ควรทำ ต้องทำ ไม่ไปมองสนใจคนอื่น เลือกนั่งกดมือถือปุ่มกด ที่ไม่น่ามีอะไรให้เล่นได้เลย เพื่อให้ใจจดจ่อที่เป้าหมายที่เขาตั้งใจเข้ามาร้านนี้ ไม่วอกแวกไปกับสิ่งไร้สาระจากคนที่ไม่มีสาระ เพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดความรู้สึก/อารมณ์ไร้สาระ จนไปทำเรื่องไร้สาระ แทนเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

สิ่งที่ลุงทำมันบ่งบอกถึงความ "มีวุฒิภาวะและคิดเป็น" แม้ลุงจะดูไม่มีตังค์ก็ตาม
นั่งมองแล้วก็คิดนะว่า ถ้าพวกทำตัวสูงส่งแค่เปลือกนอก "ถูกมองและซุบซิบแบบนั้น" 
เขาจะเลือกอยู่และทำในสิ่งมีสาระแบบลุง หรือเลือกทำในสิ่งที่ไม่มีสาระ เช่น การใช้กำลัง?

4.ในขณะที่ลุงเสียสละสิ่งที่อยากทำ และเลือก "หน้าที่และความรับผิดชอบ" ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ และพลิกวิกฤติให้เห็นโอกาส ที่จะได้ "หาเงินเพิ่มขึ้นจากปกติ" เพื่อ "ส่งเงินให้พ่อแม่ได้ใช้เงินของเขาที่เขาหามา" ยอมลำบากอีกหน่อย อดทนอีกนิด เพื่อได้แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ที่เขารัก

แต่พวกวัยรุ่นสวยหล่อ แต่งตัวดูเหมือนมีอันจะกิน กลับเลือกสิ่งที่อยากทำ ด้วยการไปสนุกสนานเพลิดเพลิน "แบมือขอเงินพ่อแม่เพื่อออกไปเที่ยวเตร่ จับจ่ายฟุ่มเฟือย ด้วยเงินที่ไม่ได้หาเอง" แทนที่จะใช้เวลาหยุดยาวนี้ อยู่กับพ่อแม่ ดูแลทดแทนคุณ แสดงความกตัญญูต่อท่าน ที่ท่านเหนื่อยยากหาเงินให้เราได้มีกินมีใช้

สิ่งที่ลุงทำมันบ่งบอกถึงการ "มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อพ่อแม่" แม้ลุงจะดูไม่มีตังค์ก็ตาม
นั่งมองแล้วก็คิดนะว่า จริงๆแล้ว คนที่น่ารังเกียจ ควรจะเป็นลุง? หรือพวกที่ดูถูกคนอื่นแต่ไม่ดูถูกตัวเอง?


นั่งคิดๆ วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา เงยหน้าขึ้นมาอีกที ลุงก็หายตัวไปซะแล้วววว
ว้าาาาา.... ยังไม่ได้แบ่งไก่ชิ้นโตๆ ในจานให้ทานเลยยยยยย
ลุงเขาต้องหิวแน่ๆ แต่ที่เห็นกินแค่ไอศครีมโคนเดียว คงเพราะอยากเก็บตังค์ที่หามาได้ไว้ให้พ่อแม่แน่ๆ
เง้อออออออ..........

บางทีการคิดวิเคราะห์เยอะๆ มันก็ดี 


แต่ความคิดดีๆ แล้วเอาแต่คิด แต่ไม่ลงมือทำนี่สิ 
มันทำให้ "เสีย" 

เสียโอกาสที่จะได้ทำความดี และ เสียดายเพราะไม่ได้ทำ (>.<)


อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าเราเป็นคนโลกสวยคนนึงที่เชื่อมั่นว่า...
"โลกนี้ยังมีมุมที่สวยงามอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับตัวเราว่า...จะเลืือกมอบอะไรให้กับโลกใบนี้"

เราเชื่อมั่นว่า ถ้าคนในสังคมรู้จักการ "แบ่งปัน" หรือที่เรียกว่า "การให้"
โลกนี้จะสวยงามขึ้นมากกว่าที่เป็นแบบในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน

แต่วันนี้โลกฉันไม่สวยเลย เพราะฉัน "ไม่ได้ให้ไก่ลุงกิน" >.<

งั้นก็ขอทดแทนด้วยการเขียนบทความนี้ เพื่อ "ให้ และ แบ่งปัน" ข้อคิดดีๆ จากเหตุการณ์ที่พบ
ให้ได้อ่านกันแทนแล้วกันนะคะ ^_^ #แค่นี้โลกก็สวยขึ้นแล้วชะม้าาาาา (>^.^<)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น