ย้อนกลับไปเมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2552 เป็นครั้งแรกที่ได้มารู้จักกับวัดพระธรรมกาย ภายใต้กิจกรรมอาสาสมัครที่ชื่อว่า...
"V-Cheer : อาสาสมัครผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก"
ตอนนั้นยังเป็นนิสิตปี 2 ก็ไม่ได้เป็นคนธรรมะธรรมโมอะไร ออกจะเล่นๆ ชิวๆ เฮฮา ลั้ลลา เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป ใครพูดเรื่องวัด เรื่องพระพุทธศาสนา ก็ อืม...ดีนะ แต่ให้ไปนั่งฟังเทศน์ฟังธรรม ไม่เอาดีกว่า เพราะรู้สึกมันน่าเบื่อ ไปทีไรก็นั่งหลับทุกที
วันนั้นก็ไปเดินเล่นตลาดนัดในมอกับเดอะแก๊งค์ แล้วก็แยกย้ายกันเพราะเพื่อนๆมีเรียนแค่ตอนเช้า
มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องนั่งตะลัยเข้ามอไปเรียนต่อภาคบ่าย อารมณ์แบบกำลังเซ็ง เหมือนโดนทิ้งว่างั้น... ช่วงนั้นก็มีปัญหาชีวิตพอดี พอต้องอยู่คนเดียวก็ฟุ้งซ่านเลยสิ ก็พยายามหาวิธีหลุดจากอาการ ความรู้สึก และอารมณ์แบบนี้นะ ระหว่างเดินจากตลาดไปรอรถตะลัย เดินไปคิดไป ก็เลยคิดออกว่า................
วิธีที่ดีที่สุดที่จะหลุดจากอาการนี้ได้คือต้อง
"หากิจกรรมทำ" ซึ่งกิจกรรมที่ว่านั้นต้อง "ทำเพื่อคนอื่น" ด้วย
แต่ก็ยังนึกไม่ออกหรอกว่าจะทำอะไร อย่างไร ก็นั่งรอรถตะลัยตะลัยต่อไป..
ระหว่างที่กวาดสายตาหาตะลัยอยู่นั่นเอง
อั้ยย่ะ!!!!!!!!! V-Cheer !!!!!!!!!!!!!!!
หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ตามหามานานแสนนาน กิจกรรมที่จะช่วยให้ข้าพเจ้ากลับมาสดชื่น สดใสได้อีกครั้ง 555
ครั้งแรกที่เห็นคำว่า V-Cheer บนป้ายคัตเอ๊าท์ประชาสัมพันธ์ในมหา'ลัย
เข้าใจว่าเกี่ยวกับเชียร์ลีดเดอร์ เลยตื่นตาตื่นใจเอามากๆ
พออ่านๆไป เอ๊ะ! ไปนำสันทนาการน้องๆเด็กดีวีสตาร์ ที่ทำความดีอย่างต่อเนื่องนานกว่า 3 เดือน
อ้าว... ไม่ใช่ประกวดเชียร์ลีดเดอร์หรอคะ?? แต่ก็ลองอ่านต่อไปเรื่อยๆจนมาสะดุดประโยคท้ายที่ว่า...
"การปลูกฝังศีลธรรมเราเริ่มที่เด็กได้"
เออ!มันใช่อ่ะ เข้ากับสำนวนที่ว่า "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
เลยรีบหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ตามป้ายประชาสัมพันธ์
ระหว่างรอสัญญาณก็มีเสียงผู้หญิงรับสาย เย้.....ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ
"หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ บลาๆๆๆๆ"
แป่ววววววว!!!!!! ความหวังของฉัน.....จบสิ้นกันแล้วทีนี้ TT
แล้วก็ถึงเวลาเรียนหนังสือวิชาภาคบ่ายแล้วด้วย
ก็เลยต้องรีบหยุดความคิดไว้ ณ ตรงนั้น เพื่อมีสมาธิให้กับการเรียน (ดูดีจริงเอย อิอิ)
.
.
.
.
และแล้ว.....คาบเรียนนี้ก็จบลง เย้....555
ขณะที่กำลังจะลุกจากโต๊ะเรียนจะออกจากห้อง ก็มีกลุ่มผู้ชายตัวเล็กๆเดินเข้ามาแล้วพูดว่า...
"พี่ขอเวลาน้องๆไม่นานครับ อย่าเพิ่งออกจากห้องนะครับ"
โหย..สมัยนี้ยังมีผู้ชายพูด "ครับ" อยู่อีกหรอเนี่ยะ พูดเพราะจัง
ทำให้เราและสมาชิกที่เรียนในห้องเดียวกันนั่งฟังพี่เขาต่อ
*******ส่วนว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป*******
พี่เขาเข้ามาในห้องเรียนทำไม แล้วฉันจะได้พบกับอะไรอีกนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป...
สนุกมากครับ รอติดตามอยู่นะครับ
ตอบลบสนุกดี รอฟังค่ะ
ตอบลบสนุกดี รอฟังค่ะ
ตอบลบครั้งหนึ่งในชีวิตจริง ที่ประทับใจ เพราะเห็นประโยชน์และคุณค่า ก็เลยอยากแชร์ให้ทุกๆคนทั่วโลก ได้ปลื้มใจและอนุโมทนาบุญร่วมกัน สาธุๆๆ
ตอบลบชอบนะ ดีจังอ่านแล้วสนุกไปด้วย อยากกลับไปเป็นวีเชียร์บ้าง แต่ ติดลมบนเสียแล้วละ
ตอบลบสุดยอดเลย...
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับน้องๆนะคะ
อ่านสนุกคะ น่าติดตามตอนต่อไป
ตอบลบอ่านสนุกคะ น่าติดตามตอนต่อไป
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับน้องอาสมัครด้วยนะค่ะ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบดีๆเป็นประโยชน์กับเยาวชนสมัยนี้ ยังไงอย่าลืมมาเล่าต่อนะ เพราะสตอรี่พึ่งจะเริ่ม...
ตอบลบคนมีบุญ คิดสอนตัวเองได้ แยกแยะได้ว่า ดี-ชั่ว ถูก-ผิด บุญ-บาป เป็นอย่างไร ทำให้ชีวิตไม่ไปสู่อบาย
ตอบลบSadhu krub.
ตอบลบสุดยอด
ตอบลบน่าติดตาม สำนวน วัยรุ่น แต่เข้าใจง่าย และจริงใจมากมาย ขอชื่นชมครับ
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบเยี่ยมๆ..ขอบคุณบทความดีๆครับ
ตอบลบสาธุๆค่ะ
ตอบลบsadhu
ลบsadhu
ลบsadhu
ตอบลบsadhu
ตอบลบสาธุ
ตอบลบเยี่ยมเลย เขียนดีมากครับ
ตอบลบเป็นนักเขียนป่าวเนี้ยะ
ตอบลบถ่ายทอดบทความเห็นเป็นภาพเลย
อนาคตfcเยอะแน่...คอนเฟิร์ม👻
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์มากๆค่ะ ตอนที่ 2 มาแล้ว อย่าลืมติดตามนะคะ^^
ตอบลบ